รีวิว Alex Kidd in Miracle World DX เกมฝาแฝดของมาริโอ้ ที่จัดเต็มความน่ารักและความสนุกแบบไร้ลิมิต

Alex Kidd in Miracle World DX เกมยุค 80 ของค่าย SEGA ซึ่งแต่ก่อนจะใช้ชื่อเดิมว่า Alex Kidd ที่เหมือนเป็นเกมฝาแฝดของเกมมารีโอ้ ที่ตีคู่กันมาในยุคสมัยนั้น และในตอนนี้ค่ายเกมดังก็ได้พัฒนารูปแบบของเกมให้ทันสมัยเอาใจแฟนเกมมากขึ้น โดยมีการพัฒนาระบบการเล่นที่แตกต่างไปจากเดิม หากใครที่เคยสัมผัสความสนุกในเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้มา ก็คงจะติดใจกับเวอร์ชั่นล่าสุดไม่น้อย รีวิวเกมจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งเกมที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายเกมมารีโอ้ เวอร์ชั่นนี้ถูกพัฒนาและปรับปรุงมาอย่างมากมายก่อนจะถึงมือแฟน ๆ เพราะฉะนั้นเราลองมาทำความรู้จักกับพวกเขากันเลย

Alex Kidd in Miracle World DX จุดเด่นคือเรื่องของกราฟิก ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปมาได้

กราฟิกที่สามารถปรับเปลี่ยนไปมาได้ ต้องบอกก่อนเลยว่าตัวเกมเป็นเกมที่ถูกรีเมกขึ้นมา เพราะฉะนั้นยังคงมีความเป็นออริจินัลในด้านของงานภาพ ซึ่งเป็นแบบ 8 Bit อยู่ แต่ถ้าหากเราไม่ชอบภาพที่มีความคมชัดน้อย ก็สามารถสับเปลี่ยนเป็นแบบ HD ได้ ความเป็น HD จะทำให้ภาพเกมดูสวยและคมชัดมากขึ้น  การเคลื่อนไหวและแอ็กชั่นต่าง ๆ ดูแล้วจะไม่เชยและทันสมัย แสงและเงาก็ทำออกมาได้ดีเทียบเท่ากับเกมในยุคปัจจุบัน

ในด้านของงานภาพจะเห็นได้ว่าทีมงานได้ใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด หากใครที่ยังคงชื่นชอบความดั่งเดิมของเกมก็ยังคงเล่นเกมในภาพที่เป็น 8 Bit ได้ แต่ถ้าใครที่ชอบความคมชัด สดใส มีสีสันมากขึ้นก็เปลี่ยนมาเล่นแบบระบบ HD และเมื่องานภาพถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ เพลงประกอบก็ต้องแบ่งออกเป็น 2 แบบ เช่นเดียวกัน  นั้นก็คือโหมดใหม่ (ที่อิงจากเวอร์ชั่นเดิม) และอีกส่วนหนึ่งคือโหมดปกติ (ที่เป็นออริจินัลแท้ของเกม) จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 แบบยังคงความเป็นเพลงดั้งเดิมไว้อยู่ ซึ่งจะเน้นไปที่การเอาใจแฟน ๆ รุ่นเก่าซะมากกว่า

รูปแบบการเล่นแบบออริจินัล ถึงแม้ว่างานภาพจะมีการปรับแต่งให้ทันสมัยมากขึ้น แต่ในส่วนของการเล่นเกมก็ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้ นั้นก็คือการเล่นเกมแนวแอ๊คชั่น ในมุมมอง 2 มิติ หรือ มุมมองด้านข้าง ที่ผู้เล่นต้องบังคับตัวละครให้เดินและกระโดดไปตามฉากที่เต็มไปด้วยอุปสรรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นต่างระดับ ศัตรูที่มีมาให้จัดการหลากหลายประเภท และก็มีทั้งฉากที่เป็นฉากพื้นดินธรรมดาไปจนถึงฉากที่เป็นด่านทะเลทราย

โดยตัวละครที่เราต้องคอยบังคับจะมีอาวุธหลักเป็นการต่อยโจมตีระยะใกล้ ส่วนไอเทมหรือพลังพิเศษอื่น ๆ ก็จะหาได้จากบล็อกและระบบสุ่มต่าง ๆ นอกเหนือจากนี้ยังมีไอเทมที่เป็นกับดักเพื่อหลอกให้เราตายใจอีกด้วย และยังมีฉากพิเศษที่เป็นการใช้ยานพาหนะเช่น เรือดำน้ำ หรือ เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งก็สามารถสร้างความแตกต่างได้มากกว่าเกมมารีโอ้อยู่พอสมควร

การเก็บเหรียญ ถ้าจะพูดถึงการเก็บเหรียญในเกมมารีโอ้ก็คงจะเก็บเหรียญไปเพื่อเพิ่มชีวิตให้ได้ 1 Up แต่ในรูปแบบของเกมนี้จะนำเหรียญที่ได้มาซื้อของในร้านขายยา ที่มีหลายร้านให้เลือกมาก ๆ ซึ่งสิ่งของที่เราจะซื้อก็อาจจะเป็นไอเทมพิเศษที่ช่วยให้เราเล่นเกมได้ง่ายขึ้น เช่น รถมอเตอร์ไซค์ความเร็วสูง  ฯลฯ

อุปสรรคที่สุดแสนจะท้าทาย สำหรับเกมนี้ต้องบอกได้ว่า บอสที่มีมาให้เราต่อสู้ในเกมค่อนข้างแข็งแกร่งพอสมควร อีกทั้งตัวเรานั้นก็อ่อนแอซะเหลือเกิน โดนบอสโจมตีครั้งเดียวก็เกมโอเว่อร์ซะแล้ว ศัตรูในเกมก็ยังสามารถโจมตีเราได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม นี่ยังไม่รวมถึงฉากต่าง ๆ ที่มีความหินขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการกระโดดข้ามเหว ข้ามลาวา หรือดำน้ำในทะเล ซึ่งจังหวะในการกระโดดข้ามเหวหรือหน้าผาต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ต้องกะจังหวะให้ดี ไม่งั้นได้ลื่นตกเหวตายตลอดแน่ แต่ถึงแม้ว่าจะตายง่ายแต่ระบบเกมในภาคนี้ทีมงานได้ใส่ระบบพิเศษให้เรามีชีวิตแบบอมตะ นั้นก็หมายความว่าตายเมื่อไหร่ ก็สามารถฟื้นคืนชีพกลับมาเล่นเกมได้เมื่อนั้น

บอสในเกม การต่อสู้กับบอสที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าแข็งแกร่งพอสมควรนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่ทำให้เราผ่านไปได้ยากซะเหลือเกิน บอสแต่ละตัวจะมีการโจมตีที่แตกต่างกัน ทั้งการโจมตีด้วยหมัด หรือ อาวุธพิเศษ เท่านี้ยังไม่พอ บางตัวยังเรียกลูกสมุนมาช่วยรุมเรา (ตัวเรายิ่งอ่อนแอโดนอัดรอบเดียวก็ตาย) การต่อสู้กับบอสจึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ได้ผ่านไปง่าย ๆ นอกเหนือจากนี้ตัวเกมยังมีมินิเกมให้เราได้เล่นกันด้วย เช่น การเป่ายิ้งฉุบ และมีการใส่คัทซีนเข้ามาเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นอีกด้วย

พอพูดถึงความสนุกโดยรวมแล้ว ก็ถือว่ามีความหลากหลายให้เราต้องพูดถึงอยู่พอสมควร ทีมงานได้พัฒนาลูกเล่นและระบบต่าง ๆ ไปอย่างก้าวกระโดด ทั้งมินิเกม การใส่คัทซีน และภาพกราฟิกที่สามารถเลือกได้ว่าจะเล่นแบบไหน ความซับซ้อนที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้เกมดูน่าสนใจมากขึ้น  และสำหรับใครที่อยากหามาเล่นก็ไปหาซื้อกันได้บน PS4 , PS5 , Xbox Series , Nintendo Switch รวมทั้ง PC ด้วย