รีวิวเกม Kena: Bridge of Spirits เกมแอ็กชั่นผจญภัยสุดสนุก

รีวิวเกม Kena: Bridge of Spirits เป็นเกมแอ็กชันผจญภัยสั้นๆ แต่แสนหวานที่มีเรื่องราวอบอุ่นหัวใจและกราฟิกที่ยอดเยี่ยมที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาพยนตร์ดิสนีย์ หนึ่งในเกม PlayStation 5 เกมแรกสุดที่เคยแสดงคือเกมนี้ ความพยายามเปิดตัวของสตูดิโออินดี้ Ember Lab  Sony แสดงความมั่นใจอย่างมากในเกมนี้

โดยนำเสนอเกมในช่วงเหตุการณ์ Future of Gaming ส่องสปอตไลต์ครั้งใหญ่ให้กับ Kena และปล่อยให้มันยืนหยัดเคียงข้างกับเกมอย่าง Horizon Forbidden West และ Demon’s Souls ฉบับรีเมค ความเชื่อมั่นของ Sony ใน เกมนี้อยู่ในตำแหน่งที่ดี เนื่องจากถือเป็นเกมคอนโซล PlayStation คุณภาพสูงสุดพิเศษอีกเกมสำหรับปีนี้อีกด้วย เราจึงอยากจะมา รีวิวเกม ให้เพื่อนๆ ที่สนใจได้ทดลองโหลดมาเล่นกัน

รีวิวเกม Kena: Bridge of Spirits

เนื้อเรื่องในเกม

เกมนี้นำแสดงโดย Kena ซึ่งเป็นวิญญาณนำทางรุ่นเยาว์ที่ช่วยคนตายแก้ไขธุรกิจที่ยังไม่เสร็จและส่งต่อไปยังชีวิตหลังความตาย ขณะสำรวจป่าทึบ เธอพบหมู่บ้านร้างที่มีวิญญาณเร่ร่อนอาศัยอยู่ และตัดสินใจที่จะใช้ทักษะของเธอเพื่อช่วยพวกเขา

Kena เป็นฮีโร่แนวแอ็กชั่นผจญภัยทั่วๆ ไป ซึ่งมาพร้อมกับไม้เท้าที่เธอสามารถใช้เพื่อตบศัตรูรอบๆ ทักษะการลงแพลตฟอร์มที่เฉียบคม และการอัพเกรดที่ผู้เล่นสามารถซื้อเพื่อขยายชุดการเคลื่อนไหวของเธอได้อย่างมาก แต่ไม่เหมือนฮีโร่ในวิดีโอเกมส่วนใหญ่ Kena ไม่ได้อยู่คนเดียวในการผจญภัยของเธอ

Kena เข้าร่วมกับสัตว์น้อยน่ารักที่รู้จักกันในชื่อ Rot ซึ่งทำหน้าที่เป็นของสะสมหลักในเกม Rot มีประโยชน์สำหรับการโต้ตอบกับวัตถุในสภาพแวดล้อมและการไขปริศนา โดยมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาร่วมกับ Kena อย่างต่อเนื่อง The Rot in Kenaได้เห็นเกมนี้ได้รับการเปรียบเทียบกับแฟรนไชส์ ​​Pikmin ของ Nintendo แต่ Rot และ Pikmin นั้นไม่เหมือนกันทั้งหมดนอกจากจะเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ติดตามตัวละครหลักรอบตัวเท่านั้น

เกมเพลย์

เกมนี้นั้นไม่สามารถตายได้ ดังนั้นผู้เล่นจึงไม่ต้องกังวลกับการจัดการแบบไมโคร พวกเขาสามารถสั่งให้ดึงคันโยก ถือสิ่งของ และโจมตีศัตรูได้ แต่พวกมันไม่ต้องการพี่เลี้ยงเด็กใดๆ บรรดาผู้ที่สำรวจโลกของเกม Kena อย่างถี่ถ้วนจะมี Rot เกือบ 100 ตัวตามพวกเขาผ่านป่าไป แต่พวกมันแทบจะไม่เคยเข้าไปยุ่งเลย The Rot ล้อมรอบ Kena เมื่อเธอยืนนิ่ง แต่ไม่เช่นนั้น พวกมันจะมองเห็นได้อย่างสบายๆ ในพื้นหลังเกือบตลอดเวลา

ไม่ใช่แค่สนุกที่ได้เห็นกองทัพ Rot ของ Kena เติบโตบนหน้าจอเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นด้วย ยิ่งผู้เล่น Rot สะสมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถซื้อการอัปเกรดได้มากเท่านั้น ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่ควรสะสมด้วย Rot บางส่วนถูกซ่อนไว้ค่อนข้างดีหรือต้องการให้ผู้เล่นทำโบนัสท้าทาย เช่น กิจกรรมในสนามยิงปืน แต่การผูกติดอยู่กับระบบอัปเกรดทำให้คุ้มค่ามากที่จะตามล่าพวกมัน

ผู้เล่นเกมนี้ สามารถปรับแต่งสิ่งมีชีวิต Rot ของตนได้ในระดับหนึ่งผ่านหมวกที่หาซื้อได้จาก Hat Carts ในเกม โดยทั่วไปแล้ว สกุลเงินในเกมจะใช้เพื่อซื้อหมวกเหล่านี้เท่านั้น โดย Ember Lab จะสร้างสรรค์ด้วยการเลือกที่มีให้ในไม่ช้า ผู้เล่นจะมี Rot หลายสิบตัววิ่งเล่น บางคนสวมหน้ากากและบางคนสวมรังนกบนหัว

Rot นั้นน่ารัก แต่พวกมันยังอัดแน่นและมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ของ Kena เมื่อผู้เล่นอัพเกรดความสามารถของ Kena พวกเขาจะได้รับการโจมตีแบบ Rot พิเศษที่จำเป็นสำหรับทุกคนที่หวังจะอยู่รอดจากการต่อสู้ของบอสที่ดุเดือด พวกเขายังมีรูปแบบอื่นที่ผู้เล่นสามารถเปิดใช้งานในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับศัตรู หรือแม้แต่เปิดเส้นทางใหม่ในโลกของเกม และรูปแบบนั้นก็ใหญ่ขึ้นและน่ากลัวมากขึ้นเมื่อผู้เล่นเพิ่ม Rot ลงในบัญชีรายชื่อของพวกเขา

Rot เป็นจุดเด่นที่แท้จริงของประสบการณ์เกมนี้ แต่ Kena เองก็มีเทคนิคมากมาย ฉลาดในการต่อสู้พร้อมกับไม้เท้าและในที่สุดก็ได้รับธนูและวิธีการอื่นในการต่อสู้กับศัตรูของเธอ เป็นเกมที่สนุกมากเพราะเกมนี้ใช้ประโยชน์จากคอนโทรลเลอร์ DualSense ของ PS5 ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นใช้คันธนูของ Kena พวกเขาจะสัมผัสได้จากทริกเกอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้ โดยที่ลำโพงจะใช้อย่างชาญฉลาดเพื่อเลียนแบบเสียงของสายธนูที่ดึงกลับมา

คันธนูของ Kena เป็นอาวุธที่โดดเด่นในเกม แต่การต่อสู้จะสนุกที่สุดเมื่อผู้เล่นใช้อาวุธของ Kena ผสมกัน ยิงธนูด้วยการตีด้วยไม้เท้า ระเบิด และปัดป้องตามจังหวะเวลา

การเผชิญหน้าศัตรูขั้นพื้นฐานนั้นไม่ได้มอบความท้าทายมากมาย แต่ผู้เล่นจะต้องเชี่ยวชาญทุกสิ่งที่ Kena มีให้ หากพวกเขาต้องการออกจากการต่อสู้ของบอสเป็นชิ้นเดียว เนื่องจากบางคนจะผลักดันผู้เล่นให้ถึงขีดจำกัดอย่างแน่นอน

รูปแบบเกม

มีการต่อสู้ของบอสที่ค่อนข้างท้าทาย โดยผู้เล่นจะต้องหลบหลีกและป้องกันอย่างสมบูรณ์แบบหากพวกเขาหวังว่าจะรอด เกมนี้ เป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายเป็นส่วนใหญ่ด้วยปริศนาง่ายๆ และการสร้างแพลตฟอร์มที่ง่าย ดังนั้นการต่อสู้กับบอสจึงเป็นที่มาของความเข้มข้นที่จำเป็นมาก ผู้เล่นจะต้องตายมากกว่าสองสามครั้งเมื่อพวกเขาต่อสู้กับบอสในช่วงท้ายเกม  ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการต่อสู้ของหัวหน้า Kena คือบางครั้งมีการแนะนำบอสที่ข้ามไม่ได้ในบางครั้งซึ่งผู้เล่นจะต้องดูทุกครั้งที่พวกเขาลองการต่อสู้อีกครั้ง แม้ว่าฉากส่วนใหญ่สามารถข้ามได้

การต่อสู้ของ Kena

สนุกมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้เล่นปลดล็อกความสามารถใหม่และชุดการเคลื่อนไหวของ Kena ก็เปิดออก อย่างที่กล่าวไปแล้ว กลไกการล็อคอินอาจใช้เวลาอยู่ในเตาอบมากกว่านี้ เนื่องจากการนำไปใช้ในเกมไม่ได้ดีที่สุด หากผู้เล่นถูกล็อคไว้กับศัตรูแล้วตัดสินใจเล็งด้วยธนู มันจะปลดการล็อคออก ซึ่งอาจทำให้สับสนในการต่อสู้อันดุเดือด

การสำรวจใน Kena

ตรงไปตรงมาสำหรับเกมประเภทนี้ โดยผู้เล่นจะต้องปีนหน้าผาและไขปริศนาเพื่อเข้าถึงพื้นที่ใหม่ๆ โลกของเกม นั้นเล็กพอที่ผู้เล่นจะไม่ค่อยหลงทางเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาออกจากเส้นทางที่พ่ายแพ้ แม้ว่าเกมจะได้รับประโยชน์จากแผนที่ขนาดเล็กหรือเครื่องหมายวัตถุประสงค์ แผนที่เมื่อพยายามค้นหาตำแหน่งเฉพาะ

ตัวละคร

เป็นเกมที่มีอารมณ์ โศกนาฏกรรม ตลก และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน  Kena เกือบจะรู้สึกเหมือนกำลังเล่นภาพยนตร์ Pixar แม้ว่าจะเป็นเรื่องสั้นมาก แต่สามารถเล่นให้เสร็จได้อย่างง่ายดายภายในเวลาไม่ถึง 10 ชั่วโมง ดังนั้นตัวละครและเรื่องราวของพวกเขาจึงไม่มีเวลามากพอที่จะหายใจ เรื่องราวยังคงได้รับการบอกเล่าเป็นอย่างดี แต่ผู้เล่นไม่ได้ให้เวลากับจิตวิญญาณที่นำไปสู่ชีวิตหลังความตายอย่างแท้จริง

ความยาวที่สั้นเป็นพิเศษของ Kena เป็นหนึ่งในข้อบกพร่องที่ใหญ่ที่สุด แต่มีปัญหาทางเทคนิคที่โชคร้ายบางประการที่ทำร้ายมันเช่นกัน ในบางครั้ง ผู้เล่น Kena อาจเจอกล่องที่ไม่สามารถเปิดได้ หรือคันธนูของพวกเขาอาจปฏิเสธที่จะยิงแม้ว่าจะมีลูกธนูพร้อมอยู่ก็ตาม

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงกว่านั้นเกิดขึ้นหลังจากการต่อสู้กับบอส และเนื่องจากการต่อสู้ของหัวหน้า Kena บางอย่างอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายและใช้เวลานานมาก นี่จึงเป็นปัญหาที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง โชคดีที่ปัญหาเช่นนี้มีอยู่ไม่มากนักและส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้หรือเพิกเฉย

แม้จะมีข้อบกพร่องเล็กน้อย เกมนี้เป็นเกมแอ็กชันผจญภัยที่แข็งแกร่งและเป็นสิ่งที่พยายามเปิดตัวที่น่าประทับใจโดย Ember Lab มันเหมาะสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาการผจญภัยที่เหมือน Zelda บน PlayStation

แต่ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับเกมอย่าง Zelda และ Pikmin แล้ว เกมนี้ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ หวังว่านี่ไม่ใช่จุดจบของเรื่องราวของ Kena เพราะมันจะเป็นการดีที่จะได้เห็นแนวคิดที่นี่ขยายออกไปในเกมต่อๆ ไป เกมนี้เปิดตัว 21 กันยายนสำหรับพีซี PS4 และ PS5