รีวิว SIN Chronicle แค่คลิกชีวิตก็เปลี่ยน ! เกมจำลองการตัดสินใจที่ชี้เป็นชี้ตายให้กับคุณ

SIN Chronicle เกม RPG ที่มาในธีมซามูไรญี่ปุ่นสุดคลาสสิก มีรูปแบบการเล่นแบบ Battle ที่สามารถจอยกับตัวละครอื่น ๆ ในเกมได้ และค่ายเกมที่พัฒนาเกมนี้ก็คือค่าย SEGA  ค่ายเกมยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้สร้างเกมชื่อดังออกมามากมาย หลายคนคงจะรู้จักกันดีกับเกม Sonic the hedgehog เพราะฉะนั้นก็หมดห่วงกับเรื่องคุณภาพของเกมไปได้เลย อีกหนึ่งเกมที่เราอยากจะนำมารีวิวเกมให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน รับประกันได้ว่ายิ่งอ่านจะยิ่งสัมผัสได้ถึงความขลังของเกมนี้มากขึ้น

SIN Chronicle ค่า Battle Point  คือหัวใจสำคัญของเกม

เกมเพลย์ ถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ในรูปแบบ RPG Turn-based ที่เหล่าตัวละครในเกมต้องออกเดินทาง และต่อสู้กับเหล่าศัตรู ผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครได้อย่างอิสระ เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอเหล่ามอนสเตอร์หรือศัตรูตัวฉกาจก็สามารถกดโจมตีได้ทันที แต่ถ้าผู้เล่นรู้สึกเมื่อยมือหรือขี้เกียจกดก็สามารถกดออโต้ให้ระบบเล่นได้แทนเช่นกัน สะดวกแบบไหนก็เลือกเล่นได้ตามใจชอบ ตัวละครแต่ละตัวจะมีค่า Battle Point  ซึ่งจะมี 3 แต้มเท่ากัน การออกคำสั่งให้กับตัวละครแต่ละตัวจะต้องใช้ค่านี้

การจัดสรรตัวละครในทีม เราสามารถเลือกตัวละครเข้ามาในทีมได้มากสุดถึง 6 ตัว อิสระในการจัดสรรก็สามารถทำได้ตามใจชอบ สำหรับใครที่ชอบคำนวณและชอบการวางแผนก็คงจะจัดสรรตัวละครเอง แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบความยุ่งยาก ไม่ชอบการคำนวณค่าพลัง ค่าสถานะต่าง ๆ ตัวเกมก็มีระบบคำนวณมาให้เราดูแบบอัตโนมัติ ซึ่งมันก็ทำให้ง่ายขึ้นกับการปรับแต่งตัวละครและจัดสรรทีม การอัพเกรดตัวละคร สามารถทำได้โดยใช้อุปกรณ์หรืออาวุธ นำมาประกอบชิ้นส่วนกันให้ครบ และปลดล็อคเพื่ออัพเกรดเลเวลให้สูงขึ้น

ค่า Battle Point จุดสำคัญที่จะทำให้เราผ่านด่านต่าง ๆ เพื่อไปต่อได้ ใน 1 เทิร์นเราจะมี 3 Battle Point ค่านี้สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้เล่นเกมนี้ การต่อสู้แต่ละครั้งต้องคำนวณการใช้สกิลต่าง ๆ ให้ดี กะจังหวะในการโจมตีให้ถูก ซึ่งถ้าเล่นไปเรื่อย ๆ จนคุ้นเคยกับค่านี้ดีแล้ว จะทำให้เราเล่นเกมได้อย่างสนุกมากขึ้น

โหมดเนื้อเรื่อง อีกหนึ่งจุดขายที่ดูโดดเด่นขึ้นมาในระหว่างการเล่น เมื่อเราเล่นไปเรื่อย ๆ จะค้นพบว่าตัวเกมจะมีสถานการณ์บางอย่างมาให้เราตัดสินใจ และการตัดสินใจนี้จะชี้ชะตาของทุกตัวละครในเรื่อง การตัดสินใจในแต่ละครั้งอาจจะทำให้สูญเสียบางอย่างไปอย่างไม่มีวันกลับ หรืออาจจะได้บางอย่างมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการเล่น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นเอง

ภาพรวม ด้วยรูปแบบของการเล่นและการออกแบบ ค่อนข้างทำออกมาได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว ฉากการปะทะดูดุเดือด เรียกได้ว่าต้องคาสายชาร์จไว้กับมือถือเพื่อไม่ให้หน้าจอดับเลยทีเดียว อีกหนึ่งเกมคุณภาพระดับ AAA ที่ตอบโจทย์สายบู๊ที่ชอบใช้ความคิด ตัวเกมยังรองรับแค่ภาษาญี่ปุ่นอยู่เท่านั้น ไว้ถ้าหากเปิดรอบ Global เมื่อไหร่ เราจะรีบนำรายละเอียดต่าง ๆ มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ดูก่อนใครแน่นอน