รีวิว Luna Re : Dimensional Watcher เกม RPG ตะลุยโลกแฟนตาซีโทนดาร์กกับฮีโร่ไซส์เล็กจิ๋ว

Luna Re : Dimensional Watcher หนึ่งเกม RPG ที่มีตัวละครไซส์เล็กจิ๋วเป็นเมนหลักในการดำเนินเรื่อง รูปแบบของเกมมาในธีมแฟนตาซี ที่เล่นง่าย อีกหนึ่งเกมที่ถูกออกแบบวิธีการเล่นให้น่าสนใจ อีกทั้งกราฟิกก็ดูแปลกตา หนึ่งริวิวเกมที่เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกัน รายละเอียดต่าง ๆ จะเป็นอย่างไรนั้น ตามมาดูกันเลย

Luna Re : Dimensional Watcher การอัพเกรดตัวละครที่ดูแปลก แหวกแนวกว่าเกมทั่วไป

กราฟิกที่มีเน้นสีไปในโทนหม่น ๆ มืด ๆ พูดถึงเรื่องงานภาพของเกม ต้องบอกเลยว่าโทนสีที่ทำออกมาค่อนข้างจะทำไปในโทนหม่น ๆ เน้นการใช้สีดำ ม่วง เขียว ที่เป็นสีเข้ม ๆ จึงทำให้ภาพที่ออกมาอาจจะดูไม่ค่อยสดใสนัก ตัวละครก็ถูกย่อขนาดให้ออกมาเล็กมาก ๆ ใครที่สายตาไม่ค่อยดีคงต้องเพ่งกันหน่อย

เกมแนว Auto จัดทีมปล่อยฟรีสไตล์  รูปแบบของเกมเป็นเกมแนว RPG ที่มีการเล่นสไตล์ Auto ผสมอยู่ ในโหมดของการเล่นคือเกมแนวผจญภัย ที่ผู้เล่นต้องจัดทีมตัวละครทั้งหมดให้ได้ 9 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความต่างในเรื่องของระบบธาตุ ที่มีตั้งแต่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ฯลฯ อีกทั้งยังมีการแบ่งคลาสแยกย่อยไปอีกด้วย วิธีการเล่นค่อนข้างซับซ้อน ถึงแม้จะมีการเล่นสไตล์ Auto แต่ก็ไม่ได้เล่นง่าย ๆ เหมือนเกมทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น ตัวละครธาตุลมจะชนะตัวละครธาตุน้ำ แต่แพ้ธาตุดิน ธาตุแสง และธาตุมืด ในจุด ๆ นี้ผู้เล่นต้องศึกษาวิธีการเล่นให้ดี ๆ

หลังจากที่เราจัดทีมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องออกเดินทางไปตะลุยด่านต่าง ๆ ตัวเกมจะมีระบบออโต้ให้ผู้เล่นให้กดใช้ในด้านของการโจมตีและสกิล หน้าที่ของเราคือการปะทะกันกับเหล่ามอนสเตอร์ที่เรียงรายเข้ามาไม่ขาดสาย สู้ไปเรื่อย ๆ จนจบเส้นทางก็ถือว่าเป็นอันชนะ ในเกมยังมีการตั้งค่าให้กับตัวละครในเรื่องของการโจมตีแบบเจาะจง ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะตีมอนสเตอร์ตัวไหนก่อน เช่น ตีตัวที่บินอยู่ หรืออยากจะไปตีบอสก่อนก็ยังได้ ใครเล่นเกมนี้ก็แนะนำให้ไปตั้งค่ากันดู

ในเกมยังมีระบบเวลา ที่จะมาเปรียบเทียบความอดทนของเหล่ามอนสเตอร์ ยกตัวอย่างเช่น เกมในโหมดกลางวัน เหล่ามอนสเตอร์ธาตุน้ำ ธาตุดิน และธาตุแสง จะมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้น โหมดกลางคืน มอนเสตอร์ธาตุไฟ ธาตุลม และธาตุมืด จะมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้น การเล่นในระบบนี้ยังแบ่งระดับความยาก-ง่าย เข้ามาอีกด้วย ไล่ไปตั้งแต่ แกร่งขึ้น 30 % แกร่งขึ้น 60% แกร่งขึ้น 100% เพราะฉะนั้นผู้เล่นก็คงต้องจัดสรรวิธีการต่อสู้ของตัวละครในแต่ละโหมดให้ดี ๆ ว่าโหมดไหนเราจะได้เปรียบและเอาชนะได้อย่างง่ายดาย

การอัพเกรดตัวละคร สามารถทำได้โดยการอัพดาว การติดอาวุธและการปลดลิมิต แต่ส่วนที่เพิ่มเข้ามาและทำให้เกมดูแปลกแหวกแนวก็คือ ระบบเพิ่มกองกำลังสนับสนุน พูดง่าย ๆก็คือการใส่ตัวละครในตัวละครอีกที วิธีง่าย ๆ ก็คือการใส่การ์ดบัฟสเตตัส ซึ่งการ์ดตัวละครเหล่านี้ก็สามารถอัพเลเวลได้ เพียงแต่หน้าที่หลักของการ์ดนี้คือการนำมาใส่ในตัวละครหลักอีกที ซึ่ง 1 ตัวละครสามารถติดการ์ดบัฟสเตตัสได้ถึง 3 ใบ

โหมดการเล่นอื่น ๆ ถึงแม้ว่าเกมนี้จะมีวิธีการอัพเกรดหรือรูปแบบการเล่นที่ดูแตกต่างจากเกมอื่น ๆ แต่ทว่าในโหมดของการเล่นยังดูไม่ค่อยหลากหลายเท่าที่ควร โหมดที่ควรมีก็ไม่มี เช่น โหมดอารีน่า โหมดหอคอย ซึ่งโหมดเหล่านี้ถือว่าเป็นโหมดเบสิกมาก ๆ สำหรับการเล่นเกมแนว RPG ในเกมจะเน้นไปที่การตีมอนสเตอร์และจัดการบอสซะส่วนใหญ่ ซึ่งเมื่อเล่นไปถึงจุด ๆ หนึ่งก็อาจจะทำให้รู้สึกไม่อยากเล่นต่อ อีกทั้งบางส่วนก็ยังมีการผสมโหมดออโต้เข้าไป จึงทำให้ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าเล่นมากนัก

ภาพรวมของเกมนี้ สำหรับด้านความแปลกตาในเรื่องภาพและตัวละคร ก็คงต้องบอกได้ว่าแตกต่างจากเกมอื่น ๆ มีความโดดเด่นสุด ๆ ในเรื่องของตัวละครที่เล็กมาก ๆ ธีมในเกมมาแนวโทนมืด ๆ ดาร์ก ๆ ขาดความสดใส ถ้าในเรื่องของระบบการเล่นก็มีระบบอัพเกรดตัวละครที่แปลก และเพิ่มความยากด้วยความซับซ้อนของระบบธาตุต่าง ๆ แต่ถ้าจะให้พูดถึงโหมดของการเล่น ต้องบอกเลยว่าน้อยมาก ๆ อีกหนึ่งเกมที่ผู้เล่นอาจจะต้องเข้ามาเล่นนาน ๆ ครั้ง ดาวน์โหลดมาเล่นกันได้แล้ว บนแพลตฟอร์ม ios และ Andriod  “เกมใหม่ต้องโหลด ไม่งั้นจะเชยเอานะ”